วันที่นำเข้าข้อมูล 10 ส.ค. 2566
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 8 ต.ค. 2567
การขอทำหนังสือเดินทางทั่วไปสำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 20 ปี
ข้อควรรู้ในการขอทำหนังสือเดินทาง
1. ผู้ประสงค์ขอทำหนังสือเดินทาง ต้องมาดำเนินการด้วยตนเองเท่านั้น เนื่องจากจะมีการบันทึกข้อมูลชีวภาพ เช่น บันทึกลายนิ้วมือ ภาพถ่าย และม่านตา 2. หลีกเลี่ยงการใส่ Contact lens แบบสี ในวันที่ขอรับบริการ 3. หนังสือเดินทางมีอายุ 5 ปี และ 10 ปี และไม่สามารถต่ออายุหนังสือเดินทางในเล่มได้ (หากเล่มเดิมหมดอายุ ต้องทำเล่มใหม่เท่านั้น) 4. ชื่อ-สกุล ในหนังสือเดินทางเล่มใหม่ จะเป็นไปตามฐานข้อมูลทะเบียนราษฎรที่ประเทศไทย ซึ่งอาจไม่ต้องกับชื่อ-สกุล ในหนังสือเดินทางฯ เล่มเดิม 5. กรณีที่ต้องการให้นามสกุลในหนังสือเดินทางเป็นนามสกุลหลังการสมรสหรือหย่า จะต้องดำเนินการแก้ไขข้อมูลนามสกุลในระบบทะเบียนราษฎรที่ประเทศไทยก่อน (แก้ไขที่เขตหรืออำเภอที่ผู้ประสงค์ขอทำหนังสือเดินทางมีชื่ออยู่) 6. ผู้ที่เกิดในสหรัฐฯ จะมีสิทธิขอทำหนังสือเดินทางได้เพียงหนึ่งครั้ง เพื่อที่จะเดินทางกลับประเทศไทยและเอาชื่อเข้าทะเบียนบ้านและทำบัตรประจำตัวประชาชน หากได้รับหนังสือเดินทางเล่มแรกแล้วและไม่เดินทางกลับประเทศไทยเพื่อไปดำเนินการข้างต้น จะส่งผลให้กระทรวงฯ ไม่อนุมัติทำหนังสือเดินทางเล่มที่สอง จนกว่าจะนำชื่อเข้าทะเบียนบ้านและนำเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก มาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ 7. ผู้ประสงค์ขอทำหนังสือเดินทางที่อายุเกิน 20 ปีบริบูรณ์ และเคยมีหนังสือเดินทางไทยมาแล้ว หากยังไม่เคยทำบัตรประจำตัวประชาชน ท่านจะไม่สามารถทำหนังสือเดินทางเล่มต่อไปได้ และจะต้องเดินทางกลับไปติดต่อขอทำบัตรฯ ใบแรก ณ ที่ว่าการอำเภอหรือสำนักงานเขตในประเทศไทยให้แล้วเสร็จ ทั้งนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถออกเอกสารเดินทางฉุกเฉิน หรือ Emergency Travel Document (ETD) ให้ท่านเพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเดินทางกลับประเทศไทยได้ 8. กรณีผู้ประสงค์จะทำหนังสือเดินทางมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านกลาง หรือติดท.ร. 97 จะไม่สามารถยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทางในต่างประเทศได้ โดยจะต้องไปดำเนินการนำชื่ออกจากทะเบียนบ้านกลางที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอที่มีภูมิลำเนาอยู่เพื่อขอนำชื่อเข้าทะเบียนบ้านแบบปกติก่อน ซึ่งสามารถดำเนินการด้วยตนเองหรือทำหนังสือมอบอำนาจให้บุคคลอื่นไปดำเนินการแทนได้ คลิกที่นี่เพื่อศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการรับรองลายมือชื่อในหนังสือมอบอำนาจเพื่อนำชื่อออกจากทะเบียนบ้านกลาง
|
การยื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทาง
สถานเอกอัครราชทูตฯ แนะนำให้ผู้ประสงค์ขอรับบริการทำหนังสือเดินทางทำนัดหมายในระบบนัดหมายออนไลน์ก่อนเข้ารับบริการเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกและความรวดเร็วให้กับผู้ประสงค์ขอรับบริการทำหนังสือเดินทางเอง เนื่องจากท่านจะได้รับการบริการจากเจ้าหน้าที่ตามวันและเวลาที่ท่านได้เลือกไว้ โดยภายหลังจากที่ทำนัดหมายได้สำเร็จ ท่านจะได้รับอีเมลจากระบบตอบรับอัตโนมัติในการยืนยันนัดหมาย ซึ่งในอีเมลจะระบุวันและเวลานัดหมายที่ท่านได้เลือกไว้ อีกทั้งท่านยังจะได้รับ Checklist ของเอกสารที่ท่านต้องนำมาในการใช้ประกอบการยื่นคำร้องฯ ทำให้ท่านสามารถจัดเตรียมเอกสารได้อย่างครบถ้วน เมื่อทำนัดหมายสำเร็จและได้วันและเวลาที่ท่านจะมายื่นคำร้องฯ แล้ว ขอให้ท่านจัดเตรียมเอกสารและเดินทางมาตามที่อยู่ด้านล่างนี้ Royal Thai Embassy (Consular Office) 2300 Kalorama Rd., N.W. Washington D.C. 20008 |
เอกสารที่ต้องใช้ในการขอทำหนังสือเดินทางกรณีหนังสือเดินทางใกล้หมดอายุหรือหมดอายุแล้ว
2. บัตรประจำตัวประชาชนไทยที่มีอายุ 3. ค่าธรรมเนียมการทำหนังสือเดินทาง ชำระด้วย Money Order หรือ Cashier's Check สั่งจ่าย Royal Thai Embassy เท่านั้น (ไม่รับเงินสด เช็คส่วนตัว และบัตรเครดิต)
4. เงินสดค่าไปรษณีย์ 32 ดอลลาร์สหรัฐ 5. ทะเบียนบ้านที่ระบุชื่อ-สกุล และหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก (เฉพาะกรณีหากเคยมีการเปลี่ยนที่อยู่ที่ประเทศไทย) ทั้งนี้ สามารถใช้สำเนาแทนได้ หากไม่ประสงค์ยื่นเอกสารฉบับจริง |
เอกสารที่ต้องใช้ในการขอทำหนังสือเดินทางกรณีหนังสือเดินทางสูญหายหรือถูกโจรกรรม
1. คำร้องขอหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-passport Application Form) คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดแบบฟอร์ม 2. คำให้การหนังสือเดินทางหาย (Passport Lost Form) คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดแบบฟอร์ม 3. ใบแจ้งความจากตำรวจท้องถิ่นในสหรัฐฯ (Police Report) (เฉพาะกรณีหนังสือเดินทางที่หายยังมีอายุ) 4. บัตรประจำตัวประชาชนไทยที่มีอายุ 5. สำเนาหนังสือเดินทางหน้าที่มีข้อมูลส่วนตัวและรูปถ่าย (หน้าแรก) 1 ชุด 6. หลักฐานอื่น ๆ เพื่อยืนยันสถานที่เกิด เช่น สูติบัตรไทย (เฉพาะกรณีไม่มีสำเนาหน้าหนังสือเดินทาง) 7. ทะเบียนบ้านที่ระบุชื่อ-สกุล และหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก (หากมี) ทั้งนี้ สามารถใช้สำเนาแทนได้ หากไม่ประสงค์ยื่นเอกสารฉบับจริง 8. ค่าธรรมเนียมการทำหนังสือเดินทาง ชำระด้วย Money Order หรือ Cashier's Check สั่งจ่าย Royal Thai Embassy เท่านั้น (ไม่รับเงินสด เช็คส่วนตัว และบัตรเครดิต)
9. เงินสดค่าไปรษณีย์ 32 ดอลลาร์สหรัฐ |
เอกสารที่ต้องใช้ในการขอทำหนังสือเดินทางกรณีเปลี่ยนชื่อสกุลในฐานทะเบียนราษฎร
1. คำร้องขอหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ (E-passport Application Form) คลิกที่นี่เพื่อดาวน์โหลดแบบฟอร์ม 2. บัตรประจำตัวประชาชนไทยที่มีอายุ 3. หนังสือเดินทางฉบับปัจจุบัน 4. ทะเบียนบ้านที่ระบุชื่อ-สกุล และหมายเลขประจำตัวประชาชน 13 หลัก (ยกเว้นเล่มแรก) ทั้งนี้ สามารถใช้สำเนาแทนได้ หากไม่ประสงค์ยื่นเอกสารฉบับจริง 5. หนังสือสำคัญแสดงการจดทะเบียนเปลี่ยนชื่อ/สกุล ที่ออกโดยสำนักงานเขตหรืออำเภอ 6. ค่าธรรมเนียมการทำหนังสือเดินทาง ชำระด้วย Money Order หรือ Cashier's Check สั่งจ่าย Royal Thai Embassy เท่านั้น (ไม่รับเงินสด เช็คส่วนตัว และบัตรเครดิต)
7. เงินสดค่าไปรษณีย์ 32 ดอลลาร์สหรัฐ |
ระยะเวลาการดำเนินการ
ท่านจะได้รับหนังสือเดินทางเล่มใหม่ 4-6 สัปดาห์ (นับจากวันที่เจ้าหน้าที่ได้รับคำร้องฯ) |
การรับเล่มหนังสือเดินทาง
1. รับเล่มหนังสือเดินทางผ่านทางไปรษณีย์
2. รับเล่มหนังสือเดินทางด้วยตนเองที่ฝ่ายกงสุลฯ
3. มอบฉันทะให้บุคคลอื่นรับเล่มหนังสือเดินทางแทนที่ฝ่ายกงสุลฯ
4. มอบฉันทะให้บุคคลอื่นรับเล่มหนังสือเดินทางแทนฯ ที่กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ประเทศไทย
|
สามารถอ่าน คำถามที่พบบ่อย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูตฯ (หนังสือเดินทาง)
2300 Kalorama Rd., N.W.
Washington, D.C. 20008
หมายเลขโทรศัพท์ (202) 640-5310
อีเมล [email protected]
ฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูตฯ
2300 Kalorama Road, N.W. Washington, D.C. 20008
วันและเวลาทำการ
วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 09.00-17.00น.
วันหยุดราชการ
วันหยุดราชการ