วันที่นำเข้าข้อมูล 16 ส.ค. 2566
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 20 ธ.ค. 2567
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ให้บริการการงานนิติกรณ์แก่บุคคลที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ใน 13 รัฐในเขตอาณา ดังนี้ (รวมทั้งเกาะ Puerto Rico และ District of Columbia) Alabama, Delaware, Florida, Georgia, Louisiana, Maryland, Mississippi, North Carolina, South Carolina, Tennessee, Texas, Virginia, and West Virginia |
ข้อมูลและคำแนะนำในการแปล |
1. สถานเอกอัครราชทูตฯ ให้บริการรับรองคำแปลเอกสารราชการไทยที่แปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ โดยการรับรองจะเป็นการยืนยันว่าคำแปลนั้นตรงกับเนื้อหาของเอกสารต้นฉบับอย่างถูกต้อง ซึ่งเอกสารราชการไทยที่สามารถรับรองคำแปลได้ มีดังนี้
2. เอกสารราชการไทยที่นำมารับรองคำแปลจะต้องเป็นเอกสารต้นฉบับเท่านั้น โดยหากต้นฉบับเป็นสำเนา จะต้องเป็นสำเนาที่ได้รับการรับรองความถูกต้องจากหน่วยงานราชการไทยเช่น สำนักงานเขต หรืออำเภอ แล้วเท่านั้น 3. สถานเอกอัครราชทูตฯ จะประทับตรา “seen at the Royal Thai Embassy” ในการรับรองคำแปล โดยไม่รับรองข้อความใด ๆ ที่ปรากฎในเอกสาร 4. ในการรับรองคำแปล ผู้ร้องจะต้องจัดทำคำแปลภาษาอังกฤษด้วยตนเอง หรือมอบหมายให้ผู้อื่นที่มีความรู้เป็นผู้แปลให้ โดยต้องพิมพ์คำแปลให้เรียบร้อย และผู้แปลต้องลงชื่อรับรองคำแปลถูกต้อง ทั้งนี้ เอกสารทะเบียนราษฎรและทะเบียนครอบครัวเป็นแบบฟอร์มมาตรฐานของทางราชการ ผู้ร้องสามารถดาวน์โหลดและพิมพ์ลงในแบบฟอร์มได้จากเว็บไซต์ของกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ 5. การแปลเอกสารต้องถูกต้องและครบถ้วนตามแบบฟอร์มของต้นฉบับ ห้ามแปลสรุป หรือรวบรัด ตัดตอน 6. ชื่อและนามสกุลที่ปรากฏในเอกสารจะต้องสะกดให้ถูกต้องตามชื่อและนามสกุลที่ปรากฎบนหนังสือเดินทาง 7. หากเอกสารมีการบันทึกหรือแก้ไขเพิ่มเติม ผู้แปลต้องแปลส่วนที่บันทึกหรือแก้ไขนั้นด้วย เช่น การแก้ไขชื่อเด็กซึ่งบันทึกไว้ด้านหลังสูติบัตร คำเตือน ผู้ใดทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับหรือแค่ส่วนหนึ่งส่วนใด เติม หรือตัดทอนข้อความ ทำการแก้ไขด้วยประการใดๆ ในเอกสารที่แท้จริง ประทับตราปลอม หรือลงลายมือชื่อปลอมในเอกสาร ด้วยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ถ้าได้กระทำเพื่อให้ผู้หนึ่งผู้ใดหลงเชื่อว่าเป็นเอกสารที่แท้จริง ผู้นั้นจะมีโทษ ข้อหากระทำความผิดฐานปลอมแปลงเอกสาร ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และหากผู้ใดกรอกข้อความลงในแผ่นกระดาษ หรือวัตถุอื่นใด ซึ่งมีลายมือชื่อของผู้อื่นโดยไม่ได้รับความยินยอม หรือโดยฝ่าฝืนคำสั่งของผู้อื่นนั้น ถ้าได้กระทำเพื่อนำเอาเอกสารนั้นไปใช้ในกิจการที่อาจเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่น ให้ถือว่าผู้นั้นปลอมแปลงเอกสาร ต้องระวางโทษเช่นเดียวกัน (อ้างอิงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 264) |
เอกสารที่ต้องใช้: กรณียื่นและรับเอกสารด้วยตนเอง |
1. แบบฟอร์มคำร้องนิติกรณ์ จำนวน 1 ชุด 2. ต้นฉบับเอกสารราชการไทยฉบับจริงที่ต้องการให้รับรองคำแปล 3. สำเนาเอกสารราชการไทยข้างต้น จำนวน 2 ชุด 4. คำแปลจากภาษาไทยเป็นภาษาอังกฤษ จำนวน 2 ชุด 5. บัตรประจำตัวประชาชนไทยหรือหนังสือเดินทางไทยตัวจริงที่มีอายุ **หากมายื่นเอกสารด้วยตนเองแต่ต้องการรับเอกสารทางไปรษณีย์ กรุณาเตรียม ซองสำหรับส่งเอกสารกลับ พร้อมแสตมป์ที่มี tracking number หรือไปรษณีย์ USPS Priority Mail Flat Rate (ไม่รับ Meter Stamp) และจ่าหน้าซองถึงตัวท่านเองให้ชัดเจน** |
เอกสารที่ต้องใช้: กรณียื่นและรับเอกสารทางไปรษณีย์ ให้เตรียมเอกสารตามข้อ 1 - 4 (ด้านบน) และเอกสารเพิ่มเติม ดังนี้ |
1. หากไม่สะดวกส่งบัตรประจำตัวประชาชนไทยหรือหนังสือเดินทางตัวจริง กรุณานำสำเนาเอกสารดังกล่าวไปประทับตรา Notary Public ให้เรียบร้อย 2. ซองสำหรับส่งเอกสารกลับ พร้อมแสตมป์ที่มี tracking number หรือไปรษณีย์ USPS Priority Mail Flat Rate (ไม่รับ Meter Stamp) และจ่าหน้าซองถึงตัวท่านเองให้ชัดเจน 3. ส่งเอกสารที่ระบุไว้มาที่ Royal Thai Embassy (Attn: Legalization) 2300 Kalorama Rd. NW, Washington D.C. 20008 หมายเหตุ ***สถานเอกอัครราชทูตฯ ไม่รับผิดชอบกรณีเอกสารสูญหายทางไปรษณีย์ ไม่ว่ากรณีใด*** |
ค่าธรรมเนียม |
|
ระยะเวลาดำเนินการ |
7 วันทำการ โดยนับจากวันที่เจ้าหน้าที่ได้รับเอกสาร |
ช่องทางการติดต่อ |
ฝ่ายนิติกรณ์ (Legalization section) หมายเลขโทรศัพท์ (202) 640-1439 อีเมล: [email protected] |
ฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูตฯ
2300 Kalorama Road, N.W. Washington, D.C. 20008
วันและเวลาทำการ
วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 09.00-17.00น.
วันหยุดราชการ
วันหยุดราชการ