วันที่นำเข้าข้อมูล 16 ส.ค. 2566
วันที่ปรับปรุงข้อมูล 24 พ.ค. 2567
สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ให้บริการการในการรับรองทะเบียนสมรส/หย่า เพื่อนำไปยื่นขอเปลี่ยนนามสกุลในทะเบียนราษฎรแก่บุคคลที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ใน 13 รัฐในเขตอาณา (รวมทั้งเกาะ Puerto Rico และ District of Columbia) ดังนี้
Alabama, District of Columbia, Delaware, Florida, Georgia Louisiana, Maryland, Mississippi, North Carolina, South Carolina, Tennessee, Texas, Virginia, West Virginia, and Puerto Rico
|
ข้อควรรู้ในการเปลี่ยนนามสกุลในทะเบียนราษฎร
1. การเปลี่ยนนามสกุลในระบบทะเบียนราษฎร หรือการบันทึกฐานะแห่งครอบครัวภายหลังการสมรส/หย่า จะต้องดำเนินการที่ประเทศไทยเท่านั้น โดยผู้ร้องที่จดทะเบียนสมรส/หย่าภายใต้กฎหมายต่างประเทศ เช่น กฏหมายสหรัฐอเมริกา และต้องการจะเปลี่ยนนามสกุลหลังการสมรส/หย่า ต้องยื่นคำร้องขอบันทึกฐานะแห่งครอบครัวและเปลี่ยนนามสกุลในระบบทะเบียนราษฎรที่สำนักงานเขตหรืออำเภอที่ประเทศไทยเท่านั้น โดยต้องนำทะเบียนสมรส/หย่า ที่ออกจากประเทศสหรัฐอเมริกา ไปผ่านการรับรองจากหน่วยงานราชการสหรัฐฯ ทั้ง 3 แห่ง ก่อนที่จะสามารถนำไปยื่นต่อหน่วยงานราชการที่ประเทศไทย ซึ่งได้แก่
2. สถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถรับรองเฉพาะลายมือชื่อ โดยจะไม่รับรองข้อความใด ๆ ที่ปรากฏในเอกสาร และไม่รับรองลายมือชื่อในเอกสารที่กรอกข้อความไม่ครบถ้วน |
ขั้นตอนที่ 1: การรับรองทะเบียนสมรส/หย่า ที่ Secretary of State จากรัฐที่ออกเอกสารให้ นำทะเบียนสมรส/หย่าท้องถิ่นของทางราชการสหรัฐฯ ไปผ่านการรับรองจาก Office of the Secretary หรือ State Authentication จากรัฐที่ออกทะเบียนสมรส/หย่า โดยสามารถหาข้อมูลของหน่วยงานและที่อยู่สำหรับการส่งเอกสารไปรับรองได้ที่ http://www.nass.org/business-services/apostillesdocument-authentication-services (เลือกเมนู Business Services > Apostilles/Authentications > เลือกรัฐที่ออกทะเบียนสมรส/หย่าท้องถิ่นให้) ขั้นตอนที่ 2: การรับรองทะเบียนสมรส/หย่า ที่ U.S. Department of State (กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ) นำทะเบียนสมรส/หย่าท้องถิ่นที่ผ่านการรับรองจาก Secretary of State (รายละเอียดในขั้นตอนที่หนึ่ง) ไปผ่านการรับรองที่ U.S. Department of State, Washington D.C. โดยสามารถหาข้อมูลของหน่วยงานดังกล่าวและสถานที่สำหรับส่งเอกสารไปรับรองได้ที่ https://travel.state.gov/content/travel/en/records-and-authentications/authenticate-your-document/office-of-authentications.html ขั้นตอนที่ 3: การรับรองทะเบียนสมรส/หย่า ที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ภายหลังจากที่ได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 และ 2 เรียบร้อยแล้ว กรุณานำทะเบียนสมรส/หย่า ดังกล่าว มายื่นขอรับรองที่สถานเอกอัครราชทูตฯ โดยสามารถยื่นคำร้องได้ 2 วิธี ดังนี้
Royal Thai Embassy, Consular Office 2300 Kalorama Rd., N.W. Washington DC 20008
ขั้นตอนที่ 4: การนำทะเบียนสมรส/หย่า ที่ผ่านการรับรองจากหน่วยงานข้างต้นทั้ง 3 แห่ง ไปยื่นดำเนินการขอเปลี่ยนนามสกุลในทะเบียนราษฎรที่ประเทศไทย นำเอกสารตัวจริงที่ผ่านขั้นตอนการรับรองเอกสารจากหน่วยงานข้างต้นทั้ง 3 แห่ง (Secretary of State, Department of State และสถานเอกอัครราชทูตฯ) กลับไปยังประเทศไทยและนำใบทะเบียนสมรส/หย่า ไปแปลเป็นภาษาไทยตามสถานที่ที่รับจ้างแปลเอกสารทั่วไป หลังจากนั้นนำใบทะเบียนสมรส/หย่า พร้อมคำแปลภาษาไทย ไปที่กองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ เพื่อขอรับรองเอกสารดังกล่าว ตามที่อยู่ด้านล่างนี้ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ 123 ถนนแจ้งวัฒนะ เขตหลักสี่ กรุงเทพมหานคร เวลาทำการ 08.30-14.30 น. (ปิดวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์) อีเมล [email protected] เว็บไซต์ www.consular.go.th เมื่อรับรองเอกสารดังกล่าวเสร็จสิ้นแล้ว ท่านจึงสามารถนำเอกสารตัวจริงและคำแปลที่ผ่านการรับรองจากกองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ไปยื่นคำร้องต่อที่ว่าการอำเภอ กิ่งอำเภอ หรือเขตที่ท่านมีชื่ออยู่ เพื่อทำการบันทึกสถานะครอบครัวโดยเปลี่ยนนามสกุลในทะเบียนบ้าน หลังจากนั้น ท่านจะต้องทำบัตรประจำตัวประชาชนใหม่ เพื่อนำไปใช้ทำหนังสือเดินทางเล่มใหม่ต่อไป |
1. กรณีผู้ร้องและคู่สมรส/หย่า เดินทางไปแสดงตนที่สำนักงานเขต/อำเภอ
2. กรณีคู่สมรส/หย่า ไม่สามารถเดินทางไปแสดงตนที่สำนักงานเขต/อำเภอ
3. กรณีผู้ร้องและคู่สมรส/หย่า ประสงค์จะมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทน เนื่องจากไม่สามารถเดินทางไปแสดงตนที่สำนักงานเขต/อำเภอ
|
การออกเอกสารจะใช้เวลาประมาณ 7 - 10 วันทำการ นับจากวันที่สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้รับเอกสารครบถ้วน |
การขอรับเอกสาร
เตรียมซองไปรษณีย์แบบ Express Mail ของ USPS และติดแสตมป์จำนวน 30.45 ดอลลาร์สหรัฐ (ไม่รับ Meter Stamp) และจ่าหน้าซองไปรษณีย์ดังกล่าวถึงตัวท่านเอง โดยเขียนชื่อ-ที่อยู่ และหมายเลขโทรศัพท์บนซองให้ชัดเจน
|
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูตฯ (เจ้าหน้าที่นิติกรณ์)
หมายเลขโทรศัพท์ (202) 640-1439
อีเมล [email protected]
ฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูตฯ
2300 Kalorama Road, N.W. Washington, D.C. 20008
วันและเวลาทำการ
วันจันทร์ - วันศุกร์ เวลา 09.00-17.00น.
วันหยุดราชการ
วันหยุดราชการ