วันที่นำเข้าข้อมูล 28 ส.ค. 2566

วันที่ปรับปรุงข้อมูล 1 ก.พ. 2567

| 2,247 view

การขอรับบุตรบุญธรรม (ENG)

ชาวต่างชาติที่ประสงค์จะรับเด็กไทยเป็นบุตรบุญธรรมสามารถกระทำได้ ดังนี้

การแสดงความจำนงขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม

  • ชาวต่างประเทศที่มีภูมิลำเนาในต่างประเทศ ให้ยื่นคำขอต่อส่วนราชการที่มีอำนาจหน้าที่ในเรื่องการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมของประเทศที่ผู้นั้นมีภูมิลำเนาหรือหน่วยงานที่รัฐบาลของประเทศนั้นมอบหมาย หรือองค์การสวัสดิภาพเด็กที่รัฐบาลของประเทศนั้นอนุญาตให้ดำเนินการเพื่อให้มีการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมระหว่างประเทศ
  • ชาวต่างประเทศที่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย และมีหลักฐานหนังสือสำคัญประจำตัวต่างด้าว ให้ยื่นคำขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมที่ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (Child Adoption Centre) กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงความมั่นคงและทรัพยากรมนุษย์ กรุงเทพมหานคร หมายเลขโทรศัพท์ 02- 2468651 โทรสาร 02-2479480
  • ชาวต่างประเทศที่มีถิ่นที่อยู่ชั่วคราวในประเทศไทยและมีหนังสืออนุญาตการทำงานจากกรมแรงงานมาแสดง และอาศัยในประเทศไทยไม่น้อยกว่า 1 ปี ก่อนวันยื่นคำขอ และมีระยะเวลาสำหรับการทดลองเลี้ยงดูเด็กในประเทศได้ครบกำหนด ให้ยื่นคำขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมที่ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม โดยเอกสารต่าง ๆ จะต้องได้รับการรับรองจากสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุล ประจำประเทศไทยของผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมนั้นด้วย

 

คุณสมบัติเบื้องต้นของผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม

  • มีอายุเกินกว่า 25 ปี และต้องมีอายุมากกว่าเด็กอย่างน้อย 15 ปี
  • จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติที่จะรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมได้ตามกฎหมายของประเทศที่ผู้ขอรับมีภูมิลำเนาอยู่ และจะต้องมีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับประเทศไทย

 

การจัดส่งเอกสาร

1. ฝ่ายผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม

ผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมต้องติดต่อส่วนราชการที่มีอำนาจหน้าที่ในเรื่องการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมหรือหน่วยงานที่รัฐบาลประเทศนั้นมอบหมาย หรือองค์กรเอกชนที่รัฐบาลของประเทศนั้นอนุญาตให้ดำเนินการเรื่องบุตรบุญธรรม เพื่อจัดหาเอกสารต่าง ๆ ดังนี้ 

  • รายงานการศึกษา และรูปถ่ายครอบครัวของผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม
  • หนังสือรับรองความเหมาะสมที่จะรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม
  • หนังสือรับรองว่าจะทำการควบคุมการทดลองเลี้ยงดูและส่งรายงานผลการทดลองเลี้ยงดูมาให้กรมประชาสงเคราะห์ไม่เกินสองเดือนต่อครั้งเป็นระยะเวลา 6 เดือน
  • แบบคำขอรับบุตรบุญธรรม 
  • เอกสารรับรองสุขภาพของผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุตรธรรมจากแพทย์
  • เอกสารรับรองการสมรส
  • ทะเบียนหย่า (กรณีเคยสมรสมาก่อน)
  • เอกสารรับรองอาชีพและรายได้
  • เอกสารรับรองการเงิน
  • เอกสารรับรองทรัพย์สิน
  • เอกสารรับรองจากผู้อ้างอิง 2 คน
  • รูปถ่ายขนาด 4.5 X 6 ซ.ม. คนละ 4 รูป
  • เอกสารการตรวจคนเข้าเมืองที่ประเทศนั้นรับรองการอนุญาตให้เด็กเข้าประเทศได้
  • กรณีติดต่อผ่านองค์การสวัสดิภาพเด็กเอกชนจะต้องมีสำเนาในอนุญาตขององค์กร และหนังสือจากหน่วยงานรัฐบาลซึ่งรับรององค์กรนั้น ๆ ด้วย

หมายเหตุ

เอกสารทุกฉบับดังกล่าวข้างต้นจะต้องได้รับการรับรองโดยสถานเอกอัครราชทูตหรือสถานกงสุลไทยในประเทศที่ผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมพำนักอยู่หรือจัดส่งผ่านช่องทางทางการทูต

2. ฝ่ายที่จะมอบเด็กให้

  • บัตรประจำตัวประชาชนของบิดามารดาหรือผู้ปกครอง
  • ทะเบียนบ้าน
  • ทะเบียนสมรส
  • ทะเบียนหย่า หรือคำสั่งศาล
  • หนังสือรับรองจากสำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ/กิ่งอำเภอ ตามแบบ ป.ค. 14 รับรองว่าบิดามารดาของเด็กมิได้จดทะเบียนสมรสกัน และบิดาของเด็กมิได้จดทะเบียนรับรองบุตรและได้เลิกรากันไปเป็นเวลานานกี่ปีด้วย 
  • หนังสือแสดงความยินยอมของผู้มีอำนาจให้ความยินยอม (แบบ บธ.5) 
  • บันทึกสอบปากคำตามแบบ ป.ค. 14
  • รูปถ่ายขนาด 4.5 X 6 ซ.ม. ของบิดามารดาของเด็กคนละ 1 รูป 

3. ฝ่ายเด็กที่จะเป็นบุตรบุญธรรม

  • สูติบัตรเด็ก
  • ทะเบียนบ้านเด็ก
  • รูปถ่ายของเด็กขนาด 4.5 X 6 ซ.ม จำนวน 1 รูป
  • หนังสือแสดงความยินยอมของเด็กที่จะเป็นบุตรบุญธรรม (แบบ บธ.6)

 

ขั้นตอนการดำเนินการขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม

1. เมื่อจัดเตรียมเอกสารต่าง ๆ ได้ครบถ้วนแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่ (นักสังคมสงเคราะห์) จะพิจารณาว่าผู้ขอรับเด็กมีคุณสมบัติตามกฏหมายหรือไม่ หากพบว่าผู้ขอรับเด็กมีคุณสมบัติเหมาะสม มีฐานะความเป็นอยู่ดี มีอุปนิสัยดี ความประพฤติดี อาชีพรายได้ดี ฐานะของครอบครัวดี ตลอดจนมีสุขภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจสมบูรณ์ เหมาะสมที่จะรับเด็กไปอุปการะเลี้ยงดูได้ พนักงานเจ้าหน้าที่จะประมวลรายละเอียดต่าง ๆ เพื่อเสนอให้อธิบดีพิจารณาก่อนเสนอคณะกรรมการการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมในการพิจารณาอนุมัติคุณสมบัติของผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม หากเป็นกรณีที่มอบเด็กให้กันเอง คณะกรรมการฯ จะพิจารณาเด็กควบคู่ไปในคราวเดียวกัน

2. กรณีที่ขอรับเด็กกำพร้าของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ เมื่อคณะกรรมการการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมพิจารณาอนุมัติคุณสมบัติของผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมแล้ว คณะกรรมการการคัดเลือกเด็กให้เป็นบุตรบุญธรรมจะพิจารณาคัดเลือกเด็กกำพร้าของกรมฯ ให้แก่ผู้ขอรับ ตามบัญชีก่อนหลัง

3. กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการจะแจ้งประวัติเด็กพร้อมรูปถ่ายให้ผู้ขอรับบุตรบุญธรรมได้พิจารณาผ่านหน่วยงานที่ติดต่อเรื่องนี้มา

4. เมื่อผู้ขอรับบุตรบุญธรรมแจ้งตอบรับเด็กให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการทราบแล้ว พนักงานเจ้าหน้าที่จะเสนอให้คณะกรรมการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมพิจารณาอนุมัติให้ผู้ขอรับบุตรบุญธรรมรับเด็กไปทดลองเลี้ยงดู โดยต้องขออนุญาตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงและทรัพยากรมนุษย์ก่อนนำเด็กออกไปนอกราชอาณาจักรไทยเพื่อทดลองเลี้ยงดู

5. เมื่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงและทรัพยากรมนุษย์อนุญาต กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการจะนัดหมายให้ผู้ขอรับบุตรบุญธรรมมารับการสัมภาษณ์จากคณะกรรมการการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม และรับเด็กไปทดลองเลี้ยงดูเป็นเวลาอย่างน้อย 6 เดือน โดยหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือในต่างประเทศจะทำการควบคุมการทดลองเลี้ยงดูและส่งรายงานผลการทดลองเลี้ยงดูมาให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการสองเดือนต่อครั้งเป็นระยะเวลา 6 เดือน

6. เมื่อทดลองเลี้ยงดูเป็นระยะเวลาครบ 6 เดือนแล้ว และมีรายงานผลการทดลองเลี้ยงดูครบ 3 ครั้ง ซึ่งหากปรากฏว่าผลการทดลองเลี้ยงดูเป็นที่น่าพอใจ เด็กอยู่อาศัยกับครอบครัวผู้ขอรับบุตรบุญธรรมอย่างมีความสุข พนักงานเจ้าหน้าที่จะสรุปรายงานเสนอคณะกรรมการฯ เพื่อพิจารณาอนุมัติให้ผู้ขอรับบุตรบุญธรรมไปดำเนินการจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมตามกฎหมายได้

7. ผู้ขอรับบุตรบุญธรรมจะต้องไปดำเนินการขอจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมที่สถานเอกอัครราชทูตไทยหรือสถานกงสุลไทยที่ผู้ขอรับบุตรบุญธรรมมีภูมิลำเนาอยู่ โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการจะมีหนังสือขอความร่วมมือไปยังกระทรวงการต่างประเทศผ่านกระทรวงความมั่นคงและทรัพยากรมนุษย์ เพื่อแจ้งสถานเอกอัครราชทูตไทยหรือสถานกงสุลไทยทราบ พร้อมกับแจ้งให้หน่วยงานที่รับผิดชอบและผู้ขอรับบุตรบุญธรรมได้ทราบพร้อมกัน

8. กรณีที่ผู้ขอรับบุตรบุญธรรมอยู่ที่ประเทศไทย การจดทะเบียนฯ สามารถดำเนินการได้ที่สำนักงานเขตหรือที่ว่าการอำเภอ/กิ่งอำเภอ ซึ่งเป็นการร้องขอจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมได้เช่นเดียวกับการขอบุตรบุญธรรมไทย

9. กระทรวงการต่างประเทศจะส่งสำเนาภาพถ่ายเอกสารทะเบียนการรับบุตรบุญธรรม (คร.14) จำนวน 1 ชุด มาให้กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการเพื่อเป็นหลักฐานแสดงว่าการดำเนินการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมของผู้ขอรับบุตรบุญธรรม (แต่ละราย) ได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายบัญญัติไว้ทุกประการ และสำหรับผู้ขอรับบุตรบุญธรรมที่อยู่ในประเทศไทย เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจะขอสำเนาภาพถ่ายเอกสารทะเบียนการรับบุตรบุญธรรม (ดร.14) จำนวน 1 ชุด จากผู้ขอรับบุตรบุญธรรมไว้เป็นหลักฐานเพื่อแสดงว่าการดำเนินการขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมของผู้ขอรับบุตรบุญธรรม (แต่ละราย) ได้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้ว

 

องค์การสวัสดิภาพเด็ก (Unicef)

พระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม พ.ศ. 2522 มาตรา 6 บัญญัติไว้ว่า “ห้าม มิให้บุคคลใดนอกจากกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการส่วนราชการที่กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการมอบหมาย หรือองค์การ สวัสดิภาพเด็กที่ได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีดำเนินการเพื่อให้มีการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม” และมาตรา 7 บัญญัติไว้ว่า “องค์การสวัสดิภาพเด็กที่ประสงค์จะดำเนินการเพื่อให้มีการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมจะต้องยื่นคำขอรับใบอนุญาตจากอธิบดี…..”

ปัจจุบันองค์การสวัสดิภาพเด็กเอกชนที่ได้รับอนุญาตให้ดำเนินการเพื่อให้มีการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมที่อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการมี 4 องค์กรด้วยกัน คือ

  • สหทัยมูลนิธิ
  • มูลนิธิมิตรมวลเด็ก
  • มูลนิธิสงเคราะห์เด็กพัทยา
  • มูลนิธิสงเคราะห์เด็กของสภากาชาดไทย

หมายเหตุ

ท่านสามารถเข้าไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.adoption.dsdw.go.th/index.html 

 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 

ฝ่ายกงสุล สถานเอกอัครราชทูตฯ (งานทะเบียนราษฎร)

หมายเลขโทรศัพท์ (202) 640-5325

อีเมล [email protected]

add-friend-line-png-2-1