สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ได้เชิญนาง Judy Costello ตำแหน่ง Special Project Manager ประจำแผนก Business, Innovation and Economic Development ของ Office of County Executive ภายใต้ Montgomery County Government มลรัฐแมริแลนด์ เดินทางเยือนประเทศไทย ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๗ เพื่อเข้าร่วมงาน Startup X Innovation Thailand Expo (SITE 2024) งานมหกรรมประจำปีที่นำเสนอสินค้านวัตกรรมจากบริษัทสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการด้านนวัตกรรมกว่า ๓๐๐ ราย ซึ่งสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกันจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๒-๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใต้แนวคิด “Innovation for Growth and Sustainability” โดยมีนายฐิติเดช ตุลารักษ์ อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม) และเจ้าหน้าที่ของสำนักงานที่ปรึกษาด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของสถานเอกอัครราชทูตฯ ร่วมเดินทางไปด้วย

ในโอกาสนี้ ผู้แทน Montgomery County Government ได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพื่อส่งเสริมความร่วมมือและเชื่อมโยงระบบนิเวศสตาร์ทอัพระหว่าง Montgomery County กับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมทั้งได้เข้าร่วมกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ “ระบบนิเวศสตาร์ทอัพและนวัตกรรมของ Montgomery County มลรัฐแมริแลนด์”ด้วย

นอกจากนี้ ผู้แทน Montgomery County Government ได้มีโอกาสพบหารือกับผู้แทนบริษัทสตาร์ทอัพ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับแวดวงสตาร์ทอัพของไทย อาทิ บริษัท ใบยา ไฟโตฟาร์ม (ผู้พัฒนาวัคซีนสำหรับป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่ผลิตโดยใช้พืชเป็นตัวกลาง) บริษัท เมติคูลี่ (ผู้พัฒนากระดูกเทียม) True Digital Park สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยและจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจนวัตกรรมและสตาร์ทอัพระหว่างไทยกับ Montgomery County และกับสหรัฐฯ ด้วย

การดำเนินโครงการดังกล่าวถือเป็นการบูรณาการความร่วมมือระหว่างสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน กระทรวงการต่างประเทศ NIA และกระทรวง อว. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจนวัตกรรมและสตาร์ทอัพระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบาย IGNITE Thailand ของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของอุตสาหกรรม ๘ สาขา รวมถึงเศรษฐกิจดิจิทัล