พี่น้องชาวไทยในสหรัฐฯ ที่รักทุกท่าน

ตามที่ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ผมดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล ตั้งแต่วันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๗ นั้น

ผมและภริยาขอกล่าวอำลาพี่น้องชาวไทยในสหรัฐฯ ที่รักทุกท่าน เดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ใหม่ที่สาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) ตั้งแต่วันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๖๗ เป็นต้นไป

­โดยส่วนตัว ผมมีความผูกพันกับสหรัฐฯ เป็นพิเศษ โดยเฉพาะกับพี่น้องชุมชนไทย ที่ให้ความเมตตากับผมตลอดมาตั้งแต่ครั้งเดินทางมาเรียนหนังสือ จนกระทั่งได้กลับมาประจำการถึง ๓ ครั้ง เริ่มจากตำแหน่ง ที่ปรึกษาฝ่ายการเมืองประจำสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน เมื่อปี ๒๕๕๐ ต่อมาด้วยตำแหน่ง กงสุลใหญ่ ณ นครลอสแอนเจลิส เมื่อปี ๒๕๕๙ และครั้งล่าสุด ในตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน โดยการได้กลับมาที่สหรัฐฯ ไม่ว่าในสถานะใดทำให้ผมและภริยารู้สึกเหมือนได้กลับสู่ครอบครัวใหญ่ที่อบอุ่นของเราเสมอ

เมื่อครั้งเดินทางมารับตำแหน่งเอกอัครราชทูต ณ กรุงวอชิงตัน ผมได้ตั้งปณิธานที่จะยกระดับความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ อย่างรอบด้าน ภายใต้ยุทธศาสตร์ ASP คือ ๑) Alliance หรือการกระชับและเสริมสร้างความเป็นพันธมิตร บนพื้นฐานของการที่ไทยเป็นพันธมิตรทางสนธิสัญญาที่เก่าแก่ที่สุดของสหรัฐฯ ในเอเชีย ๒) Sustainability หรือการเพิ่มพูนความร่วมมือทางเศรษฐกิจให้แนบแน่นและเติบโตอย่างยั่งยืน และ ๓) Participation หรือการส่งเสริมชุมชนไทยฯ ทั่วประเทศ ให้มีความเข้มแข็ง เป็นที่ยอมรับ และมีบทบาทในทุกภาคส่วนของสหรัฐฯ ซึ่งผมภูมิใจที่จะเรียนให้พี่น้องชาวไทยทุกท่านได้ทราบว่า ผมและทีมประเทศไทยของเรา สามารถบรรลุเป้าหมายสำคัญที่ตั้งไว้ในหลายด้าน ตลอดช่วงเวลาการปฏิบัติหน้าที่ที่กรุงวอชิงตัน

เริ่มจากปี ๒๕๖๖ ซึ่งตรงกับโอกาสครบรอบ ๑๙๐ ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สหรัฐฯ ผมภูมิใจอย่างยิ่งที่สถานเอกอัครราชทูตฯ และทีมประเทศไทยฯ ได้ร่วมกับชุมชนไทยจากทั่วทั้งสหรัฐฯ ในการจัดงานเทศกาลไทยครั้งใหญ่ที่สุด ภายใต้ชื่อ “Sawasdee DC” บริเวณ National Mall หน้าอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ใจกลางกรุงวอชิงตัน เป็นครั้งแรกเพื่อเฉลิมฉลองโอกาสสำคัญดังกล่าว เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ซึ่งมีผู้เข้าร่วมงานกว่า ๓๐,๐๐๐ คน นอกจากนั้น ในเดือนเดียวกัน สถานเอกอัครราชทูตฯ ได้ทำงานร่วมกับผู้นำชุมชนไทยและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด โดยสนับสนุนให้จัดตั้ง U.S.-Thai Alliance Caucus ได้เป็นผลสำเร็จ เพื่อเป็นกลไกในการส่งเสริมความสัมพันธ์ ความร่วมมือ และผลประโยชน์ร่วมกันของไทย-สหรัฐฯ ในรัฐสภาสหรัฐฯ โดยมี สส. Michelle Steel จากพรรครีพับลิกัน เป็นประธานร่วมกับ สส. Scott Peters จากพรรคเดโมเครต ซึ่งทั้งสองท่านเป็นผู้แทนจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ที่มีชาวไทย-อเมริกัน อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกัน ภายหลังการประชุมหารืออย่างเข้มข้นกับผู้ประกอบการร้านอาหารไทยและธุรกิจอาหารในเขต DMV สถานเอกอัครราชทูตฯ สามารถสนับสนุนให้มีการจัดตั้งสมาคมร้านอาหารไทยในอเมริกา หรือ Thai Restaurant Association in America ในเดือนตุลาคม ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการส่งเสริมธุรกิจร้านอาหารไทยในสหรัฐฯ ให้มีความแข็งแกร่งและเป็นปึกแผ่นยิ่งขึ้น รวมทั้งเป็นโอกาสในการเผยแพร่วัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของชาติด้วยและล่าสุด ผมร่วมกับนายกเทศมนตรีเมือง Manassas รัฐเวอร์จิเนีย ได้เปิด NVA Thai Market ซึ่งกำลังนำไปสู่การหารือเกี่ยวกับการจัดตั้งไทยทาวน์แห่งที่ ๓ ในสหรัฐฯ ที่รัฐเวอร์จิเนีย

ก่อนหน้านั้น ในเดือนเมษายน สถานเอกเอกอัครราชทูตฯ ร่วมกับทีมประเทศไทยและมิตรประเทศ ก็ประสบความสำเร็จในการผลักดันให้ประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นสถานที่จัดการประชุมสภาผู้ว่าการกองทุนการเงินระหว่างประเทศและธนาคารโลก ในปี ๒๕๖๙ ซึ่งจะเพิ่มบทบาทของไทยในเวทีระหว่างประเทศ และมีผู้แทนเข้าร่วมการประชุมเดินทางมาประเทศไทยเป็นจำนวนมากด้วย

ต่อมาในปี ๒๕๖๗ สถานเอกอัครราชทูตฯ ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศไทยและสหรัฐฯ สามารถผลักดันการเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้เป็นผลสำเร็จ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อปูทางไปสู่การเยือนสหรัฐฯ อย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีภายในปีนี้

นอกจากนั้น ในเดือนถัดมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ และ The President’s Export Council ได้เยือนไทย เพื่อขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ อีกทั้งสะท้อนการแลกเปลี่ยนการเยือนของผู้แทนระดับสูงของหน่วยงานไทย-สหรัฐฯ ในสาขาที่หลากหลายด้วย

การเยือนระดับสูงเหล่านี้ ส่งผลสำคัญให้ความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ใกล้ชิดมากขึ้น ส่งผลย้อนถึง A ข้างต้น ในส่วนของ S หรือ economic sustainability นั้น เราก็ได้ผลักดันให้การค้า-การลงทุนไทย-สหรัฐฯ เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องโดยภาคเอกชนไทยลงทุนในสหรัฐฯ รวมกว่า ๑๕ พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ความสำเร็จหลายด้านที่กล่าวมาข้างต้น ล้วนมีผลสืบเนื่องมาจากความเข้มแข็งและบทบาทที่สร้างสรรค์ของชุมชนไทยในสหรัฐฯ ผมจึงขอขอบคุณชุมชนไทย อีกทั้งสมาคม/ชมรมของไทยในทุกสาขาและทุกรัฐ สำหรับการสนับสนุนและน้ำใจไมตรีที่มีให้ผมและภริยา สถานเอกอัครราชทูตฯ สถานกงสุลใหญ่ฯ และทีมประเทศไทยทั่วสหรัฐฯ อย่างเต็มเปี่ยมเสมอมา ซึ่งผมหวังที่จะได้เห็นการสอดประสานการทำงานระหว่างกันอย่างเข้มข้นยิ่งขึ้นต่อไป

สุดท้ายนี้ ผมและภริยาขอกราบอาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลก โปรดดลบันดาลให้พี่น้องชาวไทยในสหรัฐฯ ที่รักทุกท่าน  และมิตรครอบครัวชาวอเมริกัน ประสบแต่ความสุข ความเจริญ มีสุขภาพแข็งแรง เปี่ยมด้วยกำลังกาย กำลังใจ ปลอดภัยจากภยันตรายทั้งปวง เป็นพื้นฐานความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ตลอดไป

ขอขอบคุณและกล่าวคำอำลา

​​​​​​​นายธานี แสงรัตน์
​​​​​​เอกอัครราชทูต ณ กรุงโซล
​​​​​​​๒๐ เมษายน ๒๕๖๗